[๓๙] อาบัติปาราชิก ๓๐
๑. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๒. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๓. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๔. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของอมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๕. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของอมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๖. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของอมนุษย์ผู้หญิง ต้องอาบัติปาราชิก
๗. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก
๘. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก
๙. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของสัตว์ดิรัจฉานตัวเมีย ต้องอาบัติปาราชิก
๑๐. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๑. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๒. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๓. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๔. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๕. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของอมนุษย์อุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๖. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๗. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในปัสสาวมรรคของสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๘. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของสัตว์ดิรัจฉานอุภโตพยัญชนก ต้องอาบัติปาราชิก
๑๙. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของมนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก
๒๐. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของมนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก
๒๑. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของอมนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก
๒๒. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของอมนุษย์บัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก
๒๓. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของสัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ต้องอาบัติปาราชิก
๒๔. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของสัตว์ดิรัจฉานบัณเฑาะก์ ต้องอาบัติปาราชิก
๒๕. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของมนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก
๒๖. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของมนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก
๒๗. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของอมนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก
๒๘. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของอมนุษย์ผู้ชาย ต้องอาบัติปาราชิก
๒๙. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในวัจจมรรคของสัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ ต้องอาบัติปาราชิก
๓๐. เมื่อเสวนจิตปรากฏ ภิกษุสอดองค์กำเนิดเข้าในมุขมรรคของสัตว์ดิรัจฉานตัวผู้ ต้องอาบัติปาราชิก
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
น้ำกับทิฐิ
นานมาแล้วมีชายคนหนึ่งชื่อว่า...ทิฐิ... เขาเป็นคนที่มีนิสัยอวดดื้อถือดีไม่ต่างจากชื่อ เพราะเมื่อได้ลองเชื่อมั่นในสิ่งใดแล้ว ทิฐิคนนี้ก็จะยึดม...
-
มัชฌิมาปฏิปทาในทางพุทธศาสนาหมายถึงทางสายกลาง คือ การไม่ยึดถือสุดทางทั้ง 2 ได้แก่ อัตตกิลมถานุโยค คือ การประกอบตนเองให้ลำบากเกิน...
-
อุปสรรคของสมาธิคืออะไร..? อุปสรรคของสมาธิ ได้แก่ นิวรณ์ หมายถึง สิ่งที่กั้นจิตไม่ให้ก้าวหน้าในคุณความดี, ไม่ให้บรรลุสมาธิได้ มี 5 อ...
-
.....พรานคงและคนรุ่นเก่า ๆ ให้สัจจะปฏิญาณว่า ถึงจะล่าสัตว์ก็จริง แต่จะไม่ล่าและฆ่าลิง ค่าง บ่าง ชนี เพราะสัตว์เหล่านี้เมื่อถลก หนังออกแล้ว ม...
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น