บทความ

กำลังแสดงโพสต์จาก ธันวาคม, 2012

ความทุกข์เป็นเรื่องของใจมากกว่ากาย

รูปภาพ
                        บางครั้งเราอาจเป็นทุกข์กับความเจ็บป่วยหรือความลำบากทางกาย แต่ก็ไม่มากเท่ากับทุกข์ที่เกิดจากความคิดหรือการวางใจไว้ผิด จริงหรือไม่ว่า เราชอบเก็บเอาความคิดร้ายๆมาใส่ใจ คำพูดของคนอื่นที่ผ่านไปนานแล้ว เราก็ยังเก็บมาคิดให้รู้สึกเจ็บแค้นในใจ เวลาที่มีคนต่อว่า แทนที่เราจะทำใจให้เป็นอิสระโดยการปล่อยให้คำพูดนั้นผ่านไปกับกาลเวลา แต่เรากลับยอมเป็นทาสของถ้อยคำเหล่านั้น ด้วยการเก็บมาคิดซ้ำแล้วซ้ำเล่า เหมือนฉายหนังเรื่องเดิมโดยไม่รู้จักหยุด ทั้ง ๆ ที่รู้ดีว่าไม่เกิดประโยชน์อะไร เมื่อไรก็ตามที่เรามีสติรู้ตัวและไม่ยอมให้ทุกข์เล่นงานอย่างที่เคยเป็น ไม่ว่าใครก็ไม่อาจบังคับใจเราให้เป็นทุกข์ได้ เมื่อใจของเราไม่ยอมเก็บความคิดร้าย ๆ มาใส่ใจ ทุกข์เหล่านั้นก็เป็นเหมือนสายลมที่พัดมาแล้วก็ลอยผ่านไป ไม่ส่งผลสะเทือนต่อความเป็นอยู่ของเรา เมื่อนั้น ใจเราก็เป็นอิสระจากทุกข์

การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน

        ทำไมจึงต้องปฏิบัติธรรม? ถ้าเราไม่ปฏิบัติธรรมจิตของเราก็จะไม่เกิดเป็นธรรม เมื่อจิตไม่เป็นธรรม การกระทำ การพูด การคิดเห็น ก็จะไม่เป็นธรรม เพราะมีอารมณ์ของบาปอกุศลคอยคิดเห็นแทนในการกระทำ ในการพูด ในการคิดเห็น เราจึงมักทำอะไรๆผิดๆพลาดๆอยู่เสมอในชีวิตประจำวัน เพราะจิตไม่มีธรรม จึงไม่มีเมตตาธรรม ไม่มีหิริความละอายแก่ใจ ไม่มีโอตตัปปะคือไม่เกลงกลัวต่อบาป ฉะนั้นการปฏิบัติธรรมจึงสำคัญต่อชีวิตเป็นอย่างยิ่ง การปฏิบัติธรรมทุกๆคนทำได้และทำได้ตลอดเวลาของชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะอยู่วัดหรืออยู่บ้านก็ทำได้และก็ทำในแบบเดียวกันหมด คือมุ่งละบาป ละอกุศลธรรม ละความโลภ, ละความโกรธ, ละความหลง, ด้วยการเจริญสติตามแนวทาง ธัมมานุสสติ คือการระลึกถึงพระธรรม หรือหัวข้อธรรมเป็นอารมณ์ ไว้ในใจตลอดเวลาทั้งวันและคืน หรือท่องธัมมะภาวนาไว้ให้ได้ ๓๐ ครั้งต่อวันหรือตลอดวันของชีวิตประจำวันว่า “อย่ายินดียินร้าย.อย่าว่าร้ายใคร.อย่าคิดร้ายใคร.” เพื่อให้จิตเกิดความรู้ตัว(คือสัมปชัญญะ) เป็นความจำเก็บสะสมไว้ในจิตใต้สำนึกให้ได้มากๆ อันเป็นเหตุให้จิตมีสติรู้สกัดกั้นบาปและอกุศลไม่ให้เกิดขึ้น หรือเป็นการรู้ปล่อยวางในอารมณ์ เช่นมีใ